มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าโยคีผู้ปฏิบัติส่วนใหญ่มักเป็นผู้หญิง แม่ชีคิดว่าผู้ชายส่วนใหญ่อาจจะคิดว่าว่าเขามีสติดีอยู่แล้ว เขาก็เลยประมาท และผู้ชายอาจคิดว่าเขาแก้ปัญหาด้วยตัวเขาเองได้ ไม่จำเป็นจะต้องมีใครมาช่วยให้กำลังใจ นั่นอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ชายสนใจมาปฏิบัติน้อยกว่าผู้หญิง บางที่ผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เพราะความละเอียดอ่อนแอของผู้หญิงมีมากกว่าผู้ชาย ผู้หญิงจึงเห็นทุกข์ได้มากกว่าผู้ชาย แต่พอปฏิบัติแล้ว เมื่อเจริญสติจนเข้มแข็งก็ไม่มีหญิงไม่มีชาย
ที่ว่าผู้หญิงเห็นทุกข์มากกว่าเพราะเห็นได้ง่ายกว่า อย่างผู้หญิงที่เป็นแม่บ้านเดี๋ยวนี้ ไหนจะต้องทำงาน กลับไปบ้านก็ต้องมาทำงานบ้านอีก ส่วนผู้ชายกลับไปบ้านเขาก็ผักผ่อนนั่งดูโทรทัศน์ รอให้ผู้หญิงทำกับข้าวให้กิน นี่คือความสบายของผู้ชาย แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนไป เพราะผู้ชายบางคนก็ทำให้ผู้หญิง
การเปิดสอนวิปัสสนาในปัจจุบันมีมากมายหลายแห่ง ถ้าจะถามว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าแห่งไหนดี ไม่ดี สอนปฏิบัติได้ตรงหรือไม่ตรงทาง แม่ชีคิดว่าเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล บางที่อาจจะดีสำหรับบางคน ถ้าเขาได้รับความสะดวกสบาย เข้าใจ และเรียนรู้ได้ไว แต่อาจจะไม่เหมะสมสำหรับบางคน ถ้าเขาเจอแต่เรื่องไม่ดี ไม่ถูกใจ หรือไม่เข้าใจในการปฏิบัติ แม่ชีคิดว่าแล้วแต่วาสนาของแต่ละคน ที่เขาทำบุญร่วมกับใตรมา เมื่อถึงเวลาก็จะบรรจบพบกัน พอหมดกรรมก็ต่างคนต่างไป หรือหมดบุญต่อกัน มันก็มีเหตุไม่ให้ไปด้วยกัน มันก็แค่นั่นเอง
ฉะนั้นเราจะไปสรุปว่าสถานปฏิบัติแห่งไหนดีกว่ากันนั้นไม่ได้ สำหรับแม่ชีไม่ขอล่วงเกิน แต่ขอชื่นชมและขอเจริญมุทิตากับทุกๆ สำนักที่ตั้งใจทำความดี จพได้ช่วยกันทำหน้าที่ของพุทธบริษัท เผยแพร่ธรรมะของพระพุทธเจ้าสืบไป